วันจันทร์ ที่ 24 กันยายน 2561 เวลา 22.30 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ 191 อรินทราช และ สตม. โดยได้ประสานการปฏิบัติ กับ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับตัวผู้ต้องหาแก๊ง call center คนไทย จากประเทศฟิลิปปินส์ อีกจำนวน 6 คนซึ่งมีหมายจับศาลอาญา โดยคดีนี้พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ฯ พร้อมกำลังตำรวจ ศปอส.ตร.ร่วมกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงยุติธรรมประเทศฟิลิปปินส์บุกทลายแก๊งดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 เวลา 09.30 น. บริเวณบ้านเดียวหรู หมู่บ้านโพซาดัส วินเลส เขตอาราบัง กรุงมะนิลา
ณ บริเวณสถานีตำรวจท่องเที่ยว กก.3 (ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ตามนโยบายรัฐบาลและการปฏิบัติการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามเครือข่ายแก็งคอลเซ็นเตอร์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่หลอกหลวงประชาชนได้รับความเดือดร้อน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้จัดตั้งศูนย์ปรามปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โดยมอบหมาย พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ฯ และให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เป็น รอง ผอ.ศูนย์ฯ ควบคุม กำกับชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ โดยได้ทำการสืบสวนและปราบปรามจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง
ตามที่เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 เวลาประมาณ 09.30 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท./รอง ผอ.ศปอส.ตร. หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท., พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท., พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ชุด ศปอส.ตร. พร้อมนายบ๊อบบี้ รา เควโป้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าว และกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงยุติธรรมประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ตร. หลังสืบทราบว่าในหมู่บ้านโพซาดัส วินเลส เขตอาราบัง กรุงมะนิลา มีบ้านเดี่ยวสุดหรู 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิดเป็นอย่างดี เป็นศูนย์สั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไทยมากกว่าหนึ่งปี จึงบุกตรวจค้นพบอุปกรณ์สื่อสารทั้ง คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้งาน, สมุดบัญชีธนาคาร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบโพยรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง รวมถึงบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อที่กำหนดไว้ เช่น จากหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน นอกจากนี้ยังพบคนไทย 16 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทางในประเทศไทย และมีชายชาวไต้หวัน 3 คน ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมและสั่งการ
ต่อมาวันที่ 5 ก.ย.61 เจ้าหน้าที่ชุด ศปอส.ตร. รับตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย จากประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 10 คน ซึ่งมีหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 6 คน จะส่งตัวมาภายหลัง นั้น
ในวันนี้ 24 ก.ย.61 เวลา 23.00 น. ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ชุด ศปอส.ตร. พร้อมกำลังอรินทราช รับตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยที่เหลือ จากประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 6 คน ซึ่งมีหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับการทำงานปราบปรามระหว่างประเทศ ทางการฟิลิปปินส์ให้ความร่วมมือช่วยตามรอยเบาะแสและพิกัดที่ตั้ง และยังให้ตำรวจท่องเที่ยวของไทย พร้อมชุดสายสืบเข้าร่วมจับกุมด้วย ถือเป็นการทำงานตามแนวทาง One World One Team หรือ ตำรวจหนึ่งเดียวทั่วโลก
Uสรุปผลการประสานงานความร่วมมือระหว่างประเทศ จำนวน 9 ครั้ง / 7 ประเทศ
ครั้งที่ 1 ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2561
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 คน
เป็นคนไต้หวัน จำนวน 3 คน, คนมาเลเซีย 2 คน
ครั้งที่ 2 ประเทศกัมพูชาเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2561
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 37 คน
เป็นคนไต้หวัน 6 คน, คนไทย 26 คน และคนกัมพูชา 5 คน
ครั้งที่ 3 ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 20 ก.พ.2561
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 16 คน
เป็นคนไต้หวัน 5 คน และคนไทย 11 คน
ครั้งที่ 4 ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองดูไบ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2561
จับผู้ต้องหา จำนวน 24 คน
เป็นคนไต้หวัน 1 คน และคนไทย 23 คน
ครั้งที่ 5 ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มณฑลฝูเจี้ยน เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2561
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 คน
เป็นคนไต้หวัน 1 คน และคนไทย 6 คน
ครั้งที่ 6 ไต้หวัน เมืองไถ่หนาน เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2561
จับผู้ต้องหา จำนวน 21 คน
เป็นคนไต้หวันทั้งหมด 21 คน
ครั้งที่ 7 ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2561
จับผู้ต้องหา จำนวน 12 คน
เป็นคนไต้หวัน 2 คน และคนไทย 10 คน
ครั้งที่ 8 ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2561
จับผู้ต้องหา จำนวน 19 คน
เป็นคนไต้หวัน 3 คน และคนไทย 16 คน
ครั้งที่ 9 ประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2561
จับผู้ต้องหา จำนวน 19 คน
เป็นคนไต้หวัน 2 คน และคนไทย 17 คน
รวมจับกุมผู้ต้องหา ทั้งสิ้น 160 คน
เป็นคนไต้หวัน 44 คน, คนไทย 109 คน, คนมาเลเซีย 2 คน และคนกัมพูชา 5 คน
copthai tv
Sponsor
AD BANNER